วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สมาชิก

  พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์ 

จัดทำโดย
๑.นางสาวกรกฏ  มีกุศล          ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๑๒
๒.นายจักรินทร์    บุญเลิศ        ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๑๓
๓.นายธนกร        พูดเพราะ     ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๑๕
๔.นางสาววริษฐา   น้อยมิ่ง       ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๑๘
๕.นางสาวกัญญาภัค  ตินานพ    ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๒๕
๖.นางสาวกิติยา  ชูดอก          ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๒๗
๗.นางสาวกุลจรี   เชยรัมย์       ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๒๘
๘.นางสาววารีรัตน์  เงาทอง     ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๓๕
๙.นางสาวสุนิสา  สดมสุข        ชั้น ม.๔/๕ เลขที่ ๓๙
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔/๕

ครูที่ปรึกษา
คุณครูปานชนก  ขันอ่อน

วิชาการสื่อสารและการนำเสนอ รหัสวิชา I.๓๑๒๐๒
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙
โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  เขต ๓๓

บทที่ ๕ สรุปผลการดำเนินงาน

บทที่ ๕
สรุปผลการดำเนินงาน
.๑ สรุปผลการดำเนินงาน
จากการจัดทำโครงงาน เรื่อง พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวเขมรสุรินทร์ ในครั้งนี้พบว่า จากการศึกษาข้อมูลทั้งหมดสามารถสรุปได้ดังนี้
๕.๑.๑ พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีที่มาอย่างไร แต่โดยทั่วไปเชื่อว่ามีความเป็นมาของชาวเขมรที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นบานในจังหวัดสุรินทร์ทำให้ชาวสุรินทร์ได้มีการกระทำพิธีตามแบบชาวเขมรทำให้พิธีกรรมเหล่านั้นปลูกฝังเข้าไปในจิตใจของชาวสุรินทร์มาช้านาน
๕.๑.๒ เป็นพิธีกรรมที่มีความละเอียดรอบคอบ งดงาม และเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของจังหวัดสุรินทร์ โดยลำดับขั้นตอน จะเริ่มจากการหาฤกษ์ เชิญแขก เชิญหมอพราหมณ์ เตรียมสิ่งของที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม และประพกอบพิธีกรรมในวันรุ้งขึ้น โดยมีหมอพราหมณ์เป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรม
๕.๑.๓ พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์ เป็นพิธีกรรมที่มีความซับซ้อนเก็บรายละเอียดมากในสิ่งต่างๆของการประกอบพิธีกรรม โดยมีหมอพราหมณ์ในการนำกระทำพิธี ซึ้งแตกต่างจาก พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวภาคกลางของไทย เป็นพีที่เรียบง่าย มีพระสงฆ์เป็นผู้กระทำพิธี

ประเทศไทยมีวัฒนธรรมและพิธีกรรม ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ ซึ่งในปัจจุบันการประกอบพิธีกรรมและประเพณีต่างๆ ทั้งทางศาสนาพุทธและตามความเชื่อทางภูมิภาค โดยพิธีกรรมดังกล่าวมีการยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน วิธีการสืบทอดก็เป็นไปตามลักษณะของแต่ละประเภท เป็นเหตุให้ผู้คนส่วนมากมีทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ในความเข้าใจของผู้คนเหล่านั้น มีบ้างก็เข้าใจอย่างลึกซึ้ง บ้างก็เข้าใจเพียงเล็กน้อย ว่ากระบวนการเหล่านั้นเป็นอย่างไร การนำไปปฏิบัติจึงเกิดการผิดพลาดในบางครั้งและบางครั้งก็ไม่ถูกต้องตามของพิธีกรรม การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในพิธีกรรมต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการจะมีความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติ  เพื่อศึกษาให้เกิดความชำนาญ สามารถแนะนำผู้อื่น และปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเป็นแนวทางเดียวกัน ทั้งยังเป็นการสืบทอดและอนุรักษ์ พิธีกรรมประเพณีที่ดีงามไว้ให้แก่ลูกหลานได้เรียนรู้ต่อไปอีกด้วย
.๒ ข้อเสนอแนะ
    ๕.๒.๑). ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมชมหรือต้องการที่จะศึกษาได้ความรู้และสิ่งดีๆ นำไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นที่ต้องการมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
    ๕.๒.๒). ควรมีการศึกษาประเพณีใหม่ๆ เช่น งานแต่ง งานบวช ของชาวเขมรสุรินทร์เป็นต้น

บทที่ ๔ ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา

บทที่ ๔
ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา
          จากการศึกษา เรื่อง พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่จากเขมรสุรินทร์ ในการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อต้องการอนุรักษ์ สืบทอดพิธีกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาวสุรินทร์ไว้ให้แก่ลูกหลานรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป
  ๔.๑ ที่มาและความเป็นมาของพิธีกรรม
พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีที่มาอย่างไร แต่โดยทั่วไปเชื่อว่ามีความเป็นมาของชาวเขมรที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นบานในจังหวัดสุรินทร์ทำให้ชาวสุรินทร์ได้มีการกระทำพิธีตามแบบชาวเขมรทำให้พิธีกรรมเหล่านั้นปลูกฝังเข้าไปในจิตใจของชาวสุรินทร์มาช้านาน
พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ หมายถึง พิธีที่กระทำขึ้นสำหรับที่อยู่อาศัยแห่งใหม่เพื่อปัดเป่าสิ่งีออกจากอาคารบ้านเรือนสำหรับการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านให้มีความสุข
พิธีกรรม คือ การกระทำที่คนเราสมมติ ขึ้น เป็นขั้นเป็นตอน  มีระเบียบวิธี เพื่อให้เป็นสื่อหรือหนทางที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังไว้ ซึ่งทำให้เกิดความสบายใจและมีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไป เช่น พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา หรืออีกนัยหนึ่ง พิธีกรรม หมายถึง พฤติกรรม ทีมนุษย์พึงปฏิบัติต่อความเชื่อทางศาสนาของตนเองไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆ ก็ตามต่างก็มีการปฏิบัติต่อศาสนาของตน ตามความเชื่อและความศรัทธาของตนเองในแต่ละศาสนาจึงก่อให้เกิดเป็นพิธีกรรมทางศาสนาด้วยความเชื่อและความศรัทธา(WWW.เกร็ดความรู้.com. ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙)
๔.๒ พิธีกรรมทั้งหมดสรุปได้ว่า
          พิธีกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ พิธีแต่งงาน พิธีโกนจุก พิธีบวชนาค พิธีบายศรี พิธีศพ และพิธีกรรมทุกอย่างนั้นจะประกอบไปด้วย วัน เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์และจะมาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาด้วย และที่เป็นของคู่กับสังคมไทยคือ พราหมณ์ ในหลายๆพิธีจะมีพราหมณ์มาเกี่ยวข้องในพิธีกรรม ตั้งแต่สมัยโบราณดังเห็นได้ในงานพระราชพิธี ดังเช่น พิธีตรียัมปวาย พิธีพลีสุกรรมของพรหมสถาน พิธีจรดพระนังคันแรกนาขวัญ พิธีพุทธาภิเสก อันทุกอย่างเรียกได้ว่า พิธีกรรม
ตารางที่ ๑ ความแตกต่างระหว่างพิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์กับภาคกลาง
ความต่างของพิธีกรรม
พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์
พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวภาคกลางของไทย
๑.ผู้ประกอบพิธีกรรม
หมอพราหมณ์
พระสงฆ์
๒.สิ่งของที่ต้องเตรียม
๑ จัดเตรียมเรียนตะกาลบูชาเทพ
-ร่ม,เสื่อ หมอน ฟูก,ผ้าไหม,ภูเขาทราย,จวม อังกอมะเซนเตมูย(เครื่องบูชาครู),หมากธรรม  เป(เบิกธรณี),บายศรีปากชามเขมร
๒ บังเปรื่อยปรำเบ็ยตึ  บังมาร ๘ ทิศ 
-บายศรีปากชามเขมร,เป หมากธรรม-ภูเขาทราย,ขันธ์ ๕ 
๓ โรงพิธีในบ้าน
-ต้นกล้วย ต้นอ้อย ดาบ  ปืนลูกซองยาว(ผูกกับเสา),บายศรีต้น ๗ ชั้น,บายศรีถาด บายศรีปากชามเขมร-ประต็วล(เครื่องบูชาเทพชั้นสูง),ขนมนมเนย,ไก่,น้ำเปล่า เหล้า,ขันธ์ ๕
–กระเชือข้าวเปลือก,เดือง(เป็นเหล็กแหลมไว้ฉลุไม้คล้ายเสียม),ไข่ไก่,หมากธรรม,จวม อังกอมะเซนเตนมูย(เครื่องบูชาครู)
-เตรียมฟูกเรียกขวัญ,เต้าปูน,กรรไกรตัดหมาก,ธูป เทียน ขันธ์ ๕
๔ เปจรุงมีประเตียะ(สังเวยไหว้มุมบ้าน)
-เปเปรือย ๔ เหลี่ยม ใส่อาหารหมากพลู,บายศรีปากชามเขมร,หมากธรรม
๕ ตามเสาบ้านจะมีใบไม้มงคลผูกตามเสา       
-ใบไทร,ใบกาเกาะ,ใบราชพฤกษ์,ใบบัว,ใบทานาคา(เพรื่อยยา),กล้วย ข้าวต้มมัดพวง
 ๖ หน้าประตูบ้าน จะมีใบไม้มงคลผูกอยู่และจะมีฝาหม้อดินเผาโบราญ กับไม้เลี้ย
๗ ปร็องกะลี (เบิกแม่ธรณี)                                                 
 -เป ๓ เหลี่ยม ๔ เหลี่ยม(เบิกธรณี)  ใส่ ถั่ว,เผือก,มัน,มะพร้าวขูด,งา,หมากพลู,กล้วย,อ้อย,อาหาร,แป้งปั้นเป็นรูปพระแม่ธรณี,หมากธรรม,ขันธ์ ๕  
ดอกไม้ธูปเทียน พระพุทธรูป ผลไม้และไม้มงคลต่างๆ ซึ่งจะนำเอาใช้สำหรับการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในที่นี้อาจจะมีการบวกรวมกับขนมไทยที่มีชื่อเป็นมงคลรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด และทองเอก เป็นต้น
-ต่อมาคือบุคคลที่ควรมีในงานคือผู้อาวุโส โดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เป็นผู้ชายซึ่งจะง่ายต่อการถวายของให้แก่พระและเป็นผู้ถือพระพุทธรูป โดยผู้อาวุโสที่เลือกนั้นจะต้องเป็นคนที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือด้วย ในขั้นตอนที่สำคัญคือจะให้ผู้อาวุโสชายถือพระพุทธรูปเข้าสู่ตัวบ้าน ถือว่าเป็นผู้นำ จากนั้นคนอื่นๆ ให้เดินตามเข้าไป เชื่อกันว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้บ้านที่สร้างเสร็จมีความร่มเย็นเป็นสุข จากนั้นจึงนำเอาพระไปตั้งไว้ยังหิ้งพระที่จัดเตรียมเอาไว้
พระสงฆ์ที่นิมนต์มาควรนิมนต์มาก่อนวันทำบุญไม่น้อยไปกว่า ๕ วัน โดยให้เลือกระหว่าง  ,๖ หรือ ๙ รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยการจัดโต๊ะหมู่บูชา มีผ้าขาว กระถางธูปและเชิงเทียน โดยจัดให้โต๊ะหมู่อยู่ด้านขวาของพระสงฆ์
-อย่าลืมก่อนเริ่มพิธีกรรมควรมีการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางบริเวณนั้นว่าจะขอเข้ามาอยู่อาศัย เพื่อช่วยให้ท่านปกปักรักษา ให้บ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง และปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง บางบ้านตามชนบทยังมีความเชื่อเกี่ยวกับผีบ้านผีเรือนด้วย โดยเฉพาะตามเสาบ้าน เชื่อกันว่ามีผีสิงห์สถิตอยู่ จึงจะมีการเตรียมกระทงใบตองขนาดเล็ก ใส่อาหารคาวหวาน เหล้า และบุหรี่ตั้งเอาไว้บริเวณเสาเพื่อทำการเซ่นให้ผีบ้านผีเรือนออกมากินอาหาร ที่สำคัญอย่าลืมจัดให้อาสน์สงฆ์อยู่สูงกว่าเหล่าฆราวาส มีการเตรียมแก้วน้ำ กระโถน และปัจจัยเอาไว้ด้วย โดยทั่วไปก็จะมีการล้อมสายสิญจน์รอบบ้านเอาไว้ในขณะทำพิธี เพื่อให้ภายในบ้านปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย

๓.ลำดับการประกอบพิธีกรรม
๑.แขกที่มาร่วมงานจะร่วมช่วยกันแห่รอบบ้าน โดยแต่ละคนจะถือไซดักปลา  แห สุ่ม กระเชอ กระบุงข้าวเปลือก ฟูก หมอน  เป็นต้น โดยมีหมอพราหมณ์เป็นนำแห่ เพื่อเป็นสิ่งของทำมาหากินให้บ้านเจริญสมบูรณ์จากนั้นจะพากันขึ้น
๒.ไปทำพิธีในบ้านเซ่นผีบอกปู่ย่า ๓.หมอพราหมณ์จะสวดทำพิธีเรียกขวัญบูชาพลียกรรมสวดมงคล สวดระงับบ้าน สวดเสริมชัย
๔.จากั้นแขกผู้ร่วมงานผูกขวัญให้เจ้าภาพ
๕.สาปดาร(รำบูชาเทพพลียกรรมสังเวย) ๓ รอบ โดยมีหมอพราหมณ์เป็นผู้พารำ แขกคนไหนอยากรำก็ร่วมรำได้
๖.เจ้าภาพยกขันธ์ครูไหว้หมอพราหมณ์เป็นอันเสร็จพิธี
.เจ้าอาวาสและพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจะเดินทางมาที่บ้านตามจำนวนเลขคี่ที่เลือกไว้ขึ้นเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเจริญพระพุทธมนต์พร้อมมัคทายก
.เจ้าภาพจะทำการจุดเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย ส่วนพิธีกรหรือมัคทายกจะเป็นผู้เริ่มนำสวดกล่าวคำบูชาพระ กราบพระ และอาราธนาศีลตามด้วยการให้ศีลจากพระสงฆ์
.เข้าสู่ขั้นตอนอาราธนาพระปริตร และพระสงฆ์จะเริ่มเจริญพระพุทธมนต์ เจ้าภาพจะจุดเทียนน้ำมนต์เมื่อพระสงค์สวดถึงในท่อน อเสวนา จะ ฯลฯ
.หลังจากเจริญพระพุทธมนต์จบ เจ้าภาพจะต้องทำการถวายภัตราหารหรือเพลแก่พระสงฆ์บริเวณด้านหน้า พิธีกรจะเป็นผู้กล่าวนำคำถวายข้าวแด่พระสงฆ์ จากนั้นก็จะต้องรอให้พระสงฆ์ฉันภัตราหารเสร็จจึงเข้าสู่พิธีการต่อไป
.เข้าสู่ขั้นตอนที่เจ้าภาพถวายเครื่องไทยธรรมแก่พระสงฆ์และอนุโมทนาบุญ
.เจ้าภาพทำการกรวดน้ำตามด้วยการรับศีลรับพรเป็นลำดับต่อไป
.พระสงฆ์ผู้เป็นประธานจะทำการประพรมน้ำมนต์พระพุทธมนต์เป็นอันเสร็จพิธี





              ภาพที่ ๓ เปจรุงมีประเตียะ (สังเวยไหว้มุมบ้าน)      


ภาพที่ ๔ โรงพิธีในบ้าน

ภาพที่ ๕ บายศรีปากชามเขมร
หมากธรรม 
                 เปปร็องกะลี(เบิกธรณี)   
 ภาพที่ ๖ บายศรีถาด        

   ภาพที่ ๙ ประต้วล(บูชาเทพชั้นสูง)

ภาพที่ ๑๐ จวมบูชากรู(เครื่องเคารพครู)

ภาพที่ ๑๑ หมอพราหมณ์ผู้กระทำพิธี

บทที่ ๓ วิธีการจัดทำโครงงาน

บทที่ ๓
วิธีการจัดทำโครงงาน
.๑ วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
    ๓.๑.๑. คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค
    ๓.๑.๒. ปากกาดินสอจดบันทึก
.๒  วิธีการดำเนินงาน
     ๓.๒.๑. แบ่งกลุ่มในการทำโครงงาน
     ๓.๒.๒. ร่วมกันคิดหัวข้อโครงงานที่ต้องการค้นคว้า และเลือกเรื่องที่จะนำเสนอ
     ๓.๒.๓. ศึกษา ค้นหาและรวบรวมข้อมูลตามหัวข้อโครงงาน คือ เรื่องพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่จากเขมรสุริทร์
     ๓.๒.๔. แบ่งหน้าที่ให้สมาชิกในกลุ่ม พร้อมกับเริ่มทำบทที่ ๑
     ๓.๒.๕. ส่งบทที่ 1 ให้อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานให้คำแนะนำ และข้อที่ต้องแก้ไข
     ๓.๒.๖. ปรับปรุงแก้ไขบทที่ ๑ ตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน พร้อมทำบทที่ ๒ และบทที่ ๓   ต่อไป
    ๓.๒.๗. ส่งบทที่ ๒ และบทที่ ๓ ให้อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานให้คำแนะนำ และข้อที่ต้องแก้ไข
    ๓.๒.๘. ปรับปรุงแก้ไขบทที่ ๒ และบทที่ ๓ ตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
    ๓.๒.๙. สมาชิกในกลุ่มลงมือทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
    ๓.๒.๑o. เมื่อทำงานเรียบร้อยแล้ว สมาชิกในกลุ่มจึงร่วมกันทำรูปเล่มโครงงาน
    ๓.๒.๑๑. นำเสนอโครงงาน พร้อมให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจสอบและพิจารณาโครงงาน และรูปเล่มโครงงาน
๓.๓  ลำดับขั้นตอนของพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์
๓.๒.๑.จะเริ่มจากการที่เจ้าภาพหาฤกษ์งามยามดีที่จะทำพิธี
๓.๒.๒.เจ้าภาพพิมพ์ซองเชิญแขกตามกำลังทรัพย์ของเจ้าภาพ
๓.๒.๓.เจ้าภาพติดต่อหมอพราหมณ์กระทำพิธี โดยหมอพราหมณ์ที่เจ้าภาพหามานั้นจะเป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ มีความรู้ความสามารถในการประกอบพิธีกรรมเป็นอย่างดี
๓.๒.๔.ก่อนประมาณวันงาน ๑ วันเจ้าภาพจะต้องเตรียมงานและสิ่งของต่างๆในการประกอบพีกรรมดังนี้
           ๓.๒.๕.การเตรียมพิธีนอกบ้าน
                   ๓.๒.๕.๑. จัดเตรียมเรียนตะกาลบูชาเทพ
-ร่ม,เสื่อ หมอน ฟูก,ผ้าไหม,ภูเขาทราย,จวม อังกอมะเซนเตมูย(เครื่องบูชาครู),หมากธรรม  เป(เบิกธรณี),บายศรีปากชามเขมร
                   ๓.๒.๕.๒. บังเปรื่อยปรำเบ็ยตึ  บังมาร ๘ ทิศ 
-บายศรีปากชามเขมร,เป หมากธรรม-ภูเขาทราย,ขันธ์ ๕ 
                   ๓.๒.๕.๓. โรงพิธีในบ้าน
-ต้นกล้วย ต้นอ้อย ดาบ  ปืนลูกซองยาว(ผูกกับเสา),บายศรีต้น ๗ ชั้น,บายศรีถาด บายศรีปากชามเขมร-ประต็วล(เครื่องบูชาเทพชั้นสูง),ขนมนมเนย,ไก่,น้ำเปล่า เหล้า,ขันธ์ ๕
–กระเชือข้าวเปลือก,เดือง(เป็นเหล็กแหลมไว้ฉลุไม้คล้ายเสียม),ไข่ไก่,หมากธรรม,จวม อังกอมะเซนเตนมูย(เครื่องบูชาครู)
-เตรียมฟูกเรียกขวัญ,เต้าปูน,กรรไกรตัดหมาก,ธูป เทียน ขันธ์ ๕
                  ๓.๒.๕.๔. เปจรุงมีประเตียะ(สังเวยไหว้มุมบ้าน)
-เปเปรือย ๔ เหลี่ยม ใส่อาหารหมากพลู,บายศรีปากชามเขมร,หมากธรรม
                  ๓.๒.๕.๕. ตามเสาบ้านจะมีใบไม้มงคลผูกตามเสา       
-ใบไทร,ใบกาเกาะ,ใบราชพฤกษ์,ใบบัว,ใบทานาคา(เพรื่อยยา),กล้วย ข้าวต้มมัดพวง
                  ๓.๒.๕.๖. หน้าประตูบ้าน จะมีใบไม้มงคลผูกอยู่และจะมีฝาหม้อดินเผาโบราญ กับไม้เลี้ย
                  ๓.๒.๕.๗. ปร็องกะลี (เบิกแม่ธรณี)                                                 
 -เป ๓ เหลี่ยม ๔ เหลี่ยม(เบิกธรณี)  ใส่ ถั่ว,เผือก,มัน,มะพร้าวขูด,งา,หมากพลู,กล้วย,อ้อย,อาหาร,แป้งปั้นเป็นรูปพระแม่ธรณี,หมากธรรม,ขันธ์ ๕ ,น้ำหวาน,เหล้า,น้ำเปล่า,ปลายใบกล้วย
                  ๓.๒.๕.๘.พอวันรุ่งขึ้นจะทำพิธีบ้างก็ทำในช่วงเช้า บ้างก็ทำในช่วงเย็น พอถึงเวลาที่กำหนด แขกที่มาร่วมงานจะร่วมช่วยกันแห่รอบบ้าน โดยแต่ละคนจะถือไซดักปลา  แห สุ่ม กระเชอ กระบุงข้าวเปลือก ฟูก หมอน  เป็นต้น เพื่อเป็นสิ่งของทำมาหากินให้บ้านเจริญสมบูรณ์จากนั้นจะพากันขึ้นไปทำพิธีในบ้าน โดยมีหมอพราหมณ์เป็นผู้สวดทำพิธีรียกขวัญบูชาพลียกรรมสวดมงคล  จากั้นแขกผู้ร่วมงานผูกขวัญให้เป็นอันเสร็จพิธี


คณะผู้จัดทำได้ศึกษาหาความรู้ และได้สืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ มากมาย จนสามารถสร้างชิ้นงานในการนำเสนอขึ้นมาได้นั้น คณะผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนวิธีการจัดทำโครงงานซึ่งได้ระบุไว้แล้วในบทที่ ๓ โดยเริ่มจากการสืบค้นข้อมูลที่ต้องการศึกษา  นอกจากนี้ คณะผู้จัดทำยังได้นำรูปภาพมาประกอบเข้ากับเนื้อหาด้วยเพื่อให้ผู้ที่ต้องการศึกษาและผู้ที่สนใจมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถนำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาและผู้ที่สนใจเข้ามาหาความรู้ได้

        ภาพที่ ๑ เรียนตะกาลบูชาเทพ(หิ้งบูชาเทพ)         

                      ภาพที่ ๒ บังเปรื่อยปรำเบ็ยตึ (บังมาร ๘ ทิศ)                     

บทที่ ๒ เอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง

บทที่ ๒
เอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาเรื่อง พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวเขมรสุรินทร์ คณะผู้จัดทำได้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
.. ความหมายของพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่
         .. พิธีกรรมและประเพณีที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
         ๒.๓ พิธีกรรมและประเพณีโบราณที่สำคัญทางภูมิภาคต่างๆ
๒.๑.  ความหมายของพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่
         (พิธีกรรมตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี ๒๕๕๔.) ให้ความหมายไว้ว่า พิธีกรรม หมายถึง การบูชาแบบอย่างหรือแบบแผนต่างๆ ที่ปฏิบัติในทางศาสนา(WWW.เกร็ดความรู้.com.๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙)
 พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ หมายถึง พิธีที่กระทำขึ้นสำหรับที่อยู่อาศัยแห่งใหม่เพื่อปัดเป่าสิ่งีออกจากอาคารบ้านเรือนสำหรับการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านให้มีความสุข
พิธีกรรม คือ การกระทำที่คนเราสมมติ ขึ้น เป็นขั้นเป็นตอน  มีระเบียบวิธี เพื่อให้เป็นสื่อหรือหนทางที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังไว้ ซึ่งทำให้เกิดความสบายใจและมีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไป เช่น พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา หรืออีกนัยหนึ่ง พิธีกรรม หมายถึง พฤติกรรม ทีมนุษย์พึงปฏิบัติต่อความเชื่อทางศาสนาของตนเองไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆ ก็ตามต่างก็มีการปฏิบัติต่อศาสนาของตน ตามความเชื่อและความศรัทธาของตนเองในแต่ละศาสนาจึงก่อให้เกิดเป็นพิธีกรรมทางศาสนาด้วยความเชื่อและความศรัทธา(WWW.เกร็ดความรู้.com. ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙)
๒.๒  ขั้นตอนพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่
           ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีขึ้นบ้านใหม่ เจ้าของบ้านต้องทำพิธี เข้าบ้านใหม่เสียก่อน ซึ่งพิธีจะเริ่มต้นด้วยการให้หัวหน้าครอบครัวหรือเจ้าบ้านเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมทั้งหมด ที่สำคัญจะต้องมีการอัญเชิญพระพุทธรูปประจำบ้านให้เข้ามาประดิษฐานเพื่อคอยปัดเป่าภูตผีและสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาภายในบ้านได้ ในขณะอัญเชิญให้ทำการจุดธูปเทียนเพื่อเป็นการบูชา จากนั้นจึงตามด้วยอธิษฐานเพื่อบอกกล่าวแก่องค์พระเพื่อให้ท่านได้ปกป้องคุ้มครองบ้านหลังนี้ให้มีแต่ความสุขความเจริญ ห่างไกลจากสิ่งไม่ดี ให้สมาชิกในครอบครัวมีความปลอดภัยและอยู่เย็นเป็นสุข(WWW.thaihow.com/1572 ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙)
๒.๓ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่
        สำหรับรายละเอียดของการขึ้นบ้านใหม่ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมเข้าบ้านใหม่แล้ว พิธีนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำกันทุกบ้านตามความเชื่อ ส่วนพิธีจะเล็กหรือใหญ่โตมโหฬารแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของเจ้าบ้านเอง แต่ผลลัพธ์ของสิ่งที่ได้มา ไม่ว่าจะเป็นพิธีเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนให้ความหมายที่ดีต่อคนในครอบครัวไม่น้อยไปกว่ากัน บางบ้านมีงบประมาณจำกัดก็ทำแบบง่ายๆ ในครอบครัวแบบไม่ได้ชวนชาวบ้านใกล้เคียงมาร่วมพิธี แต่หากใครมีงบมากและต้องการให้ตัวเองเป็นที่รู้จักของผู้คนในชุมชน ก็สามารถจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างใหญ่โต เพื่อสร้างสีสันและความสนุกครื้นเครงให้กับคนอื่นร่วมด้วย(WWW.thaihow.com/1572 ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙)
มีบางพิธีกรรมไม่อาจนับได้ว่าเป็นพิธีกรรมทางศาสนา เป็นความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่มักจะอ้างเรื่องความเชื่อที่ยึดถือและปฏิบัติสืบทอดกันมา น่าจะมีมาแต่โบราณ สมัยก่อนพุทธกาลตั้งแต่ยุคของศาสนาพราหมณ์ โดยที่ศาสนาพราหมณ์นั้นจะยึดถือและปฏิบัติตามคัมภีร์พระเวทย์ ซึ่งพระเวทย์หรือมนตราใช้สำหรับการสวดภาวนาในการทำพิธีกรรมต่างๆ พระเวทย์แบ่งออกเป็น ๓ ประการ เรียกว่า ไตรเภทเป็นที่มาของ คัมภีร์ไตรเภทซึ่งถือว่าได้รับมาจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้า เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียกร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณทั้งหลายในการบูชาพระผู้เป็นเจ้า การบูชาด้วยเครื่องสักการะประเภทนี้เรียกว่า การบวงสรวงเทวดาเพื่อต้องการเน้นให้เกิดอิทธิปาฏิหาริย์ การดลบันดาลให้บังเกิดสิ่งที่ดีของการตั้งจิตอธิษฐานขอให้สัมฤทธิ์ผลตามปรารถนา ต่อมาได้กลายเป็นพิธีกรรมยึดถือสืบทอดต่อ          พิธีกรรมต่างๆ สามารถแยกประเภทออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ ๒ ประเภท คือ
๑. พิธีที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ได้แก่ พิธีแต่งงาน พิธีขอขมา พิธีบายศรี พิธีศพ พิธีเลี้ยงผี ฯลฯ
๒. พิธีเกี่ยวกับศาสนา ได้แก่ การทำบุญบ้าน พิธีสิบสองเดือน ฯลฯ
นอกจากพิธีกรรมที่จัดเป็นประเภทใหญ่ๆ เหล่านี้แล้ว ยังสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อย    ๆ อีก ๑๐ ประเภท        คือ
๑. พิธีกรรมที่ปฏิบัติเป็นประจำวัน อาทิ สวดมนต์ บำเพ็ญภาวนา สรรเสริญ กราบไหว้ครูอาจารย์หรือเทพยดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักหรือโบสถ์ ฯลฯ
๒. พิธีกรรมที่ปฏิบัติเป็นครั้งคราว เป็นการกระทำในกรณี ที่สถานการณ์ยังไม่อำนวยหรือพิธีกรรมที่กระทำเป็นปฐมฤกษ์ เช่น พิธีการวางศิลาฤกษ์ พิธีการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ พิธีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสถิตชั่วคราวแล้วเชิญกลับ ฯลฯ
๓. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการชำระล้างบาป เป็นพิธีกรรมที่มีเกิดขึ้นในประเทศจีนและอินเดีย วันกระทำพิธีจะเป็นวันก่อนวันเพ็ญและเดือนแรมในแต่ละเดือน และในช่วงก่อนกระทำพิธีกรรมที่สำคัญ
๔. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการเลี้ยง ราชบัณฑิต พราหมณ์ หรือนักปราชญ์ ในวาระสำคัญของผู้ประสงค์เป็นเจ้าภาพ
๕. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
๖. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการเบิกปฐมฤกษ์ ด้วยการกระทำในฤกษ์งามยามดีสำหรับสถานที่ การทำงาน หรือของนั้นอันเป็นการแสดงถึงการเริ่มต้น
๗. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับประเพณี เป็นพิธีที่หน่วยงานราชการ หรือประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้กำหนดวัน โดยประชุมกัน เช่น วันพืชมงคล ประเพณีทำขวัญข้าว ฯลฯ
๘. พิธีกรรมเฉพาะบุคคล จะเป็นการกระทำในโอกาสอันพึงเกิดความปีติ เช่น การตั้งศาลพระภูมิ เจ้าที่ โกนจุก แต่งงาน ฯลฯ โดยมากมักถือเอาวันฤกษ์ดี  ซึ่งถูกโฉลกกับผู้เป็นเจ้าของงานพิธีนั้นๆ เพื่อเสริมขวัญและกำลังใจ
๙. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการอ้อนวอนพระเจ้า เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลและสมหวัง เช่น พิธีการบนบานศาลกล่าว พิธีกรรมบูชาเพื่อขอบุตร ฯลฯ
๑๐. พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการพลีสุกรรม หรือการบูชาครู หรืองานพิธีประจำปี จะกระทำกันเพียงปีละหนึ่งครั้ง เช่น พิธีตรียัมปวาย พิธีพลีสุกรรมของพรหมสถาน ฯลฯ โดยพิธีตรียัมปวายเป็นวันที่มหาเทพเสด็จสู่โลกมนุษย์และวันพลีสุกรรมเป็นวันขึ้นปี ใหม่ของไทยโบราณ (WWW.thaiculturebuu.wordpress.com/คลังวิดีโอ/พิธีกรรมและความเชื่อ ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๙.)
๒.๔ พิธีกรรมทั้งหมดสรุปได้ว่า

          พิธีกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ พิธีแต่งงาน พิธีโกนจุก พิธีบวชนาค พิธีบายศรี พิธีศพ และพิธีกรรมทุกอย่างนั้นจะประกอบไปด้วย วัน เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์และจะมาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาด้วย และที่เป็นของคู่กับสังคมไทยคือ พราหมณ์ ในหลายๆพิธีจะมีพราหมณ์มาเกี่ยวข้องในพิธีกรรม ตั้งแต่สมัยโบราณดังเห็นได้ในงานพระราชพิธี ดังเช่น พิธีตรียัมปวาย พิธีพลีสุกรรมของพรหมสถาน พิธีจรดพระนังคันแรกนาขวัญ พิธีพุทธาภิเสก อันทุกอย่างเรียกได้ว่า พิธีกรรม

บทที่ ๑ บทนำ

บทที่ ๑
บทนำ
.๑  ที่มาและความสำคัญ
พิธีขึ้นบ้านใหม่เป็นประเพณีที่มีมาอย่างช้านานคู่กับคนสุรินทร์โดยฝังลึกเข้าไปในจิตใจของคนเรามาตั้งแต่อดีตส่วนใหญ่คนไทยจะนับถือศาสนาพุทธ แต่ก็มีศาสนาพราหมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตการเป็นอยู่ของคนไทย ทางความเชื่อ จิตใจฝังลึกในใจมาช้านานจนแยกไม่ขาดจากกัน ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ เช่น พิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวเขมรสุรินทร์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพราหมณ์อย่างฝังลึกในจิตใจ ผู้นำในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ชุมชนให้ความนับถือ เมื่อมีการจัดพิธีดังกล่าวขึ้น คนในชุมชนที่มาร่วมพิธีจะเกิดความรักความสามัคคี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการสร้างความเจริญรุ่งเรืองและสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่ชุมนุมอย่างดียิ่ง(สัมภาษณ์พระครูพราหมณ์อภินันท์ มหาไม้นาคาธิบดีศรีไกรชร.วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๙.)
(กระทรวงวัฒนธรรม.๒๕๕๘.ออนไลน์.)ได้กล่าวไว้ว่า ปัจจุบันวัฒนธรรมและประเพณีแบบโบราณกำลังเลือนหายไป ซึ่งคนสมัยใหม่มักจะละเลย แม้จะมีการนำมาปฏิบัติอยู่บ้าง แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจขั้นตอนในเรื่องพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวสุรินทร์ถิ่นเขมร จึงทำให้มีการปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้อง ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย หากหน่วยงาน หรือส่วนราชการที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ไม่เผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง อาจทำให้วัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามมีความเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะเลือนหายไปตามกาลเวลา วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะพิธีกรรมเป็นเรื่องหลักที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจโดยถ่องแท้  คณะผู้จัดทำจึงได้คำนึงว่าพิธีกรรมแบบโบราณนี้จะ เลือนหายไปบ้างจัดพิธีไม่สมบูรณ์ ตามแบบฉบับโบราณ คณะผู้จัดทำจึงได้รวบรวมพิธีที่สมบูรณ์ไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาหาความรู้ในเรื่องพีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวเขมรสุรินทร์
.๒  วัตถุประสงค์
๑.๒.๑.เพื่อศึกษาความเป็นมาของพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์
๑.๒.๒.เพื่อศึกษาลำดับขั้นตอนพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์
๑.๒.๓.เพื่อเปรียบเทียบความต่างของพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่จากพิธีขึ้นบ้านใหม่ของภาคกลางของไทย
.๓  ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
          ๑.๓.๑.ศึกษาพิธีกรรมขึ้นบ้านใหม่ชาวเขมรสุรินทร์
๑.๔  นิยามศัพท์เฉพาะ
          ๑.๔.๑. พิธีกรรม หมายถึง การกระทำด้วยใจละศรัทธา แต่ในที่นี้หมายถึง พิธีกรรมการขึ้นบ้านใหม่ของชาวเขมรสุรินทร์
          ๑.๔.๒. พิธีขึ้นบ้านใหม่ หมายถึง  การกระทำพิธีที่เป็นมงคลกับอาคารบ้านเรือนที่สร้างใหม่ให้เกิดมงคลแก่ผู้ที่อยู่อาศัย แต่ในที่นี้หมายถึง การจัดพิธีกรรมโดยมีแนวปฏิบัติแบบเขมรทางสายเลือดของชาวจังหวัดสุรินทร์
 ๑.๔.๓. การอุ้มแมว หมายถึง การอุ้มแมวไว้บนมือ แต่ในที่นี้หมายถึง คนท้องที่อุ้มแมวแล้วทำเสียงแมวเดินแห่รอบบ้านใหม่ ๓ รอบ
 ๑.๔.๔. การเรียกขวัญ หมายถึง การเรียกเอาขวัญของคนป่วยให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว แต่ในที่นี้หมายถึง การเชิญขวัญมาฉลองงานขึ้นบ้านใหม่ให้เจ้าภาพที่อุตส่าเก็บเงินสร้างบ้านจนสำเร็จได้เป็นที่อยู่อาศัย
 ๑.๔.๕. ใบไม้ผูกเสา หมายถึง การเอาใบไม้แต่ละชนิดมาผูกกับเสา แต่ในที่นี้หมายถึง การนำเอาใบไม้มงคลแต่ละชนิดมาผูกกับเสา อันได้แก่ ใบบัว ใบราชพฤกษ์ ใบทานาคา ใบกาเกาะ ใบขนุน ใบมะยม ใบมะตูม
           ๑.๔.๖. จัดเตรียมเรียนตะกาลบูชาเทพ หมายถึง โต๊ะที่ตั้งส่งของบูชาเทพอยู่ข้างนอก
           ๑.๔.๗. จวม หมายถึง  เครื่องบูชาครูของหมอพราหมณ์ ซึ่งประกอบด้วย ใบพลู ๑๖ ใบ หมาก ๔ ลูก เงิน ๒๔ บาท และดอกไม้ธูปเทียน
           ๑.๔.๘. อังกอมะเซนเตมูย หมายถึง เครื่องบูชาครูของหมอพราหมณ์ ซึ่งประกอบด้วย ข้าวสาร ๑ จาน ใบพลู ๓ ใบ เงิน ๑ บาท และเทียน ๑ เล่ม
           ๑.๔.๙. หมากธรรม  หมายถึง เครื่องบูชา ซึ่งประกอบด้วย ต้นกล้วยตัดให้พอกำมือ มีขาไม้ไผ่สี่เหลี่ยม ใบขนุน ๓ ใบ หมาก ๑ ซีก และธุป ๑ ดอก
           ๑.๔.๑๐. เป(เบิกธรณี) หมายถึง บัตรพลี ซึ่งประกอบด้วย กาบเปลือกกล้วยเอามาพับเป็น ๔,๓ เหลี่ยมจะแบ่งแนห้องข้างใน แล้วใส่ข้าวปลาอาหาร หมากพลู ขันธ์ ๕ข้างใน
           ๑.๔.๑๑. บังเปรื่อยปรำเบ็ยตึ  หมายถึง บังมาร ๘ ทิศ  ซึ่งประกอบด้วย-บายศรีปากชามเขมร,เป หมากธรรม-ภูเขาทราย,ขันธ์ ๕ 
           ๑.๔.๑๒. ภูเขาทราย หมายถึง การนำเอาทรายมาใส่ถ้วยแล้วก่อให้พูนๆเหมือนภูเขา ซึ่งประกอบด้วย หญ้าคา ๓ ต้น ใบโพธิ์ ๓ ใบ ขันธ์ ๕ ปเทียน
           ๑.๔.๑๓. ประต็วล หมายถึง เครื่องบูชาเทพชั้นสูง ซึ่งประกอบด้วย ขนมนมเนย,ไก่,น้ำเปล่า เหล้า,ขันธ์ ๕
           ๑.๔.๑๔. กระเชือข้าวเปลือก หมายถึง กระเชือ ใส่ข้าวเปลือกให้เต็ม ซึ่งประกอบด้วย เดือง,ไข่ไก่,หมากธรรม,จวม อังกอมะเซนเตนมูย
           ๑.๔.๑๕. เดือง หมายถึง ขวานบินเป็นเหล็กแหลมไว้ฉลุไม้คล้ายเสียม
๑.๕  ระยะเวลาในการดำเนินการ
          ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ –วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙